การซื้อรถบ้านเชียงราย ที่เคยผ่านการใช้แล้ว หรือ
รถมือสองเชียงรายนั้น เราควรจะมีความละเอียดรอบคอบอย่างมากในการเลือกซื้อ คิดอย่างถ้วนถี่ก่อนการตัดสินใจ จะทำให้เรามีความมั่นใจขึ้นว่า เราซื้อแล้วสามารถนำ
รถมือสองเชียงรายนั้นมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า การที่เราเลือกใช้
รถมือสอง รถบ้านเชียงรายนั้น อาจเป็นเพราะว่าการจำกัดเรื่องค่าใช้จ่ายหรือไม่อยากเป็นภาระมานั่งผ่อนส่ง รถทุกเดือนแนวทางในการดูรถพอจะแยกเป็นหัวข้อ ๆ เพื่อให้ง่ายในการจดจำดังนี้ครับ
1. ดูตัวถังรถ ดูสภาพตัวถังรถภายนอกรอบคัน ว่ามีรอยบุบหรือรอยขีดข่วน มากน้อยขนาดใหนถ้าเราซื้อแล้วนำไปทำเพิ่มจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร ถ้าดูการชนแบบรุนแรงก็ต้อง
- เปิดฝากระโปรงหน้าดูคานด้านหน้า คานรถทุกคันจะมีรู กลมหรือ เหลี่ยมก็แล้วแต่รุ่นหรือยี่ห้อแต่ ถ้ารูเบี้ยว ไม่คมก็แสดงว่าอาจจะโดนชนแบบรุนแรงมาก่อน
- ดูป้ายทะเบียนรถว่ามีรอยยับหรือรอยดัดหรือไม่ ถ้ามีก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจจะเคยโดนชนอย่างรุนแรงมาก่อน แผ่นที่แปะติดคานมาก็เช่นกัน ให้สังเกตุดูว่ามีรอยยับหรือดัดมาหรือไม่
- ดูสันด้านข้างของตะเข็บมีความนูนเสมอกันหรือไม่ รอยเชื่อมหรืออ๊าค จากโรงงานกับรอยเชื่อมจากอู่เคาะพ่นสีก็ต่างกัน ให้สังเกตุดูรอยเชื่อมจากรถที่ออกใหม่เป็นตัวอย่างไว้
- ด้านหลัง ก็ต้องเปิดฝากระโปรงดูด้วยว่าไฟท้ายทั้ง 2 ดวงยังเสมอเบ้าอยู่หรือไม่ แล้วมีรอยแยกต่อชิ้นเว้นช่องไฟเท่ากันหรือเปล่าหรือว่าเบี้ยวหรือเกยกันมั๊ย คานหลังก็ให้สังเกตุเหมือนคานหน้าแต่ต้องลื้อพรมท้ายรถออก เพื่อให้มองเห็นพื้นได้อย่างชัดเจน
- สำหรับรถกระบะให้ดูพื้นรถด้านหลังโดยจะต้องเป็นรอน ๆ สังเกตุดูว่าเท่ากันหรือไม่
รถมือสองเชียงรายบางคันก็โดนชนข้างหลังมาแต่ช่างเคาะทำสีทำดีมากจนเราดูแทบไม่ออก เลย มาเสียอีกก็ตอนน้ำเข้าตรงเบ้าไฟท้ายเข้าได้แต่ไหลออกไม่ได้ต้องเช็ดออก
- ส่วนด้านข้าง ก็ต้องเทียบสี จากโรงงานแบบเดิมเดิม กับที่อู่ทำสี สีจะเพี้ยนนิดหน่อย แต่ก็พอสังเกตุเห็นได้ หรือจะใช้วิธีเคาะ ด้วยการกำนิ้วแล้วใช้สันนิ้วของเรานี่แหละ เคาะรอบคันรถ รถที่ผ่านการทำสีมาแล้วเสียงจะทึบ ๆ ตรงบริเวณที่เป็นสีเดิมเดิม หรือสีมาจากโรงงานจะมีเสียงโปร่ง ๆ ต้องลองหัดสังเกตุดูู้ถึงความต่าง อันนี้ด้วย คับ
- รถที่เคยพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า ก็ให้สังเกตุดูตรงหลังคารถเคาะ ๆ ดู สังเกตุว่าขอบคิ้วของกระจกหน้าหลัง เหมือนกันหรือเปล่ามีรอยแตกของสีมั๊ย สีหลังคาดูสดสวยกว่าประตู หรือส่วนอื่นๆ ก็เป็นเรื่องแปลกเพราะหลังคานั้นเป็นส่วนที่รับแดดเต็ม ๆ แต่ถ้าช่างเคาะพ่นสี บ้านเราฝีมือดีมาก ก็จะทำได้เนียนมาก
2. การดู เครื่อง, ช่วงล่าง, เกียร์
- การดูเครื่อง ถ้ามีปัญหา หรือว่าหลวม เสียงจะดัง ไม่นิ่งรอบสูงบ้างต่ำบ้าง ตอนเครื่องร้อน ก็ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมาดู ว่ามีควันพุ่งออกมา หรือ ว่าน้ำมันเครื่องจะกระเซ็นเป็นละอองออกมาเอามือไปอัง ๆ ดูก็ได้
- การดูเกียร์ หรือชุดส่งกำลัง คลัชต์ ถ้าเราเข้าเกียร์ แล้วออกตัว รถมีอาการสั่นๆ กระตุก ๆ เข้าเกียร์ยาก แสดงว่ารถน่าจะมีปัญหา ตอนวิ่งๆ ไปมีเสียงประสานหรือว่ามีเสียงหอนแหวก ดัง หรือเวลาเข้าเกียร์ว่าง รถจอดนิ่งๆ ไม่มีเสียงดังแสดงว่าระบบเกียร์น่าจะมีปัญหา เกียร์ อัตโนมัติก่อนเข้าเกียรให้์เหยียบเบรคคาไว้เวลาเข้าเกียร์ตำแหน่ง D ไม่กระตุกกระชาก พอเข้าตำแหน่งเดิม N แล้วไป R ไม่มีอาการกระตุกหรือสั่นแสดงว่าผ่านได้ ลองขับดูว่าเกียร์ทำงานครบทุกเกียร์หรือปล่าว การออกตัวดีมั๊ย ต้องสังเกตุดูถ้าต้องรอสักพักถึงจะออกตัวได้แสดงว่าระบบเกียร์น่าจะมีปัญหา
-
การดูช่วงล่าง ให้ลองขับไปตรงที่มีหลุมหรือบ่อเล็กๆ ดู แล้วสังเกตุดูว่ามีเสียงสั่น หรือเสียงชิ้นส่วนหลวมมากมั๊ย ส่วนเบรคและ ยางรถนั้นไม่ต้องสนใจเลยครับเพราะซื้อปั๊บ ควรเข้าร้านเปลี่ยนของใหม่เลย เพื่อความปลอดภัย
3. การดูภายในห้องโดยสาร
- ให้สังเกตุเรื่องกลิ่นก่อนเลย ถ้าเปิดรถแล้ว มีกลิ่นอับๆ ชื้น ๆ แสดงว่าน้ำอาจเคยแช่น้ำมา เอาแผ่นยางปูพื้นออกมาดูว่าพื้นพรมมีรอยชื้นของน้ำหรือปล่าว ดูว่าพื้นรถบริเวณห้องโดยสารมีผุ หรือทะลุหรือปล่าว
- ดูความเรียบร้อย คอนโซลว่ามีรอยแตกมั๊ย ช่องแอร์เหมือนเดิมมั๊ย
- ลองเปิดแอร์ ดูโดยเปิดแอร์ เบอร์ 1-4 เลยดูว่ามันไล่ระดับความแรงหรือปล่าว ดูแรงลมว่าตันหรือไม่ เปิดทิ้งไว้แล้วเดินดูรอบ ๆ รถ 10-20 นาที แล้วเดินเข้าไปในรถก็จะรู้ว่าแอร์เย็นหรือไม่เย็น หรือว่ามีเสียงอะไรดังผิดปรกติมั๊ยแอร์ตัดตามปกติหรือปล่าวการซื้อรถ
มือสองเชียงราย ก็ต้องเตรียมเงินไว้อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อถ่ายเปลี่ยนของเหลวในรถออกให้หมด แล้วเริ่มทำการจดบันทึกใหม่ ทั้ง เลขกิโลเมตรและวันที่ว่าเราทำอะไรไปบ้างกับรถคันนี้เมื่อไหร่ เท่าไหร่ book service ที่เราทำขึ้นเองให้เหมือนกับเราซื้อรถออกร้านใหม่ๆ ป้ายแดงเลยครับ...